อถวา ‘น โส ชาโต นาโหสี’ติ โส สทา วิชฺชมานตฺตา อตีเตปิ น ชาตุ นาโหสิ , อนาคเตปิ น ชาตุ น ภวิสฺสติฯ นิจฺโจติ อุปฺปาทวยรหิโตฯ ธุโวติ ถิโร สารภูโตฯ สสฺสโตติ สพฺพกาลิโกฯ อวิปริณามธมฺโมติ อตฺตโน ปกติภาวํ อวิชหนธมฺโม กกณฺฏโก วิย นานปฺปการตฺตํ นาปชฺชติฯ เอวมยํ สพฺพาสวทิฏฺฐิ (ม. นิ. 1.17 อาทโย) นาม กถิตาฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนาฯ
(7.) สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
[949] สตฺตกนิทฺเทเส ถามคตฏฺเฐน อปฺปหีนฏฺเฐน จ อนุเสนฺตีติ อนุสยาฯ วฏฺฏสฺมิํ สตฺเต สํโยเชนฺติ ฆเฏนฺตีติ สํโยชนานิฯ สมุทาจารวเสน ปริยุฏฺฐหนฺตีติ ปริยุฏฺฐานานิฯ กามราโคว ปริยุฏฺฐานํ กามราคปริยุฏฺฐานํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ
[950] อสตํ ธมฺมา, ลามกฏฺเฐน วา อสนฺตา ธมฺมาติ อสทฺธมฺมาฯ ราคาทีหิ โทเสหิ ทุฏฺฐานิ จริตานีติ ทุจฺจริตานิฯ เตน เตนากาเรน มญฺญนฺตีติ มานาฯ
[951] ทิฏฺฐินิทฺเทเส รูปีติ รูปวาฯ จาตุมหาภูติโกติ จตุมหาภูตมโยฯ มาตาปิตูนํ เอตนฺติ มาตาเปตฺติกํฯ กินฺตํ? สุกฺกโสณิตํฯ มาตาเปตฺติเก สมฺภูโต ชาโตติ มาตาเปตฺติกสมฺภโวฯ อิธ รูปกายสีเสน มนุสฺสตฺตภาวํ อตฺตาติ วทติฯ ทุติโย ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทิพฺพตฺตภาวํ วทติฯ ทิพฺโพติ เทวโลเก สมฺภูโตฯ กามาวจโรติ ฉกามาวจรเทวปริยาปนฺโน ฯ กพฬีการํ ภกฺขยตีติ กพฬีการภกฺโขฯ มโนมโยติ ฌานมเนน นิพฺพตฺโตฯ สพฺพงฺคปจฺจงฺคีติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคยุตฺโตฯ อหีนินฺทฺริโยติ ปริปุณฺณินฺทฺริโย; ยานิ พฺรหฺมโลเก อตฺถิ เตสํ วเสน, อิตเรสญฺจ สณฺฐานวเสเนตํ วุตฺตํฯ อากาสานญฺจายตนูปโคติ อากาสานญฺจายตนภาวํ อุปคโตฯ อิตเรสุปิ เอเสว นโยฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนาฯ
(8.) อฏฺฐกนิทฺเทสวณฺณนา